Private Relay ของ iCloud+ ไม่สามารถใช้งานได้ในจีน
หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจในงาน WWDC ก็คือ iCloud+ บริการเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่จ่ายเงินซื้อพื้นที่ iCloud ให้ทำอะไรได้หลากหลายขึ้นนั่นเอง หนึ่งในนั้นก็คือบริการ Private Relay ที่จะทำให้เหมือนเราเปิดเว็บผ่าน VPN
แม้ iCloud+ จะมีฟีเจอร์หลายตัวด้วยกัน ที่เป็นประเด็นในตอนนี้ก็คือ Private Relay นั่นเอง การทำงานนั้นจะทำให้ข้อมูลส่งผ่าน Relay Server สองตัว ทำให้ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ท และ Apple เองก็ไม่มีทางแอบดูได้ว่าผู้ใช้งานทำอะไรอยู่บ้าง (การทำงานเหมือน VPN แต่ถ้าถาม Apple ว่า Private Relay คือ VPN หรือเปล่า ก็คงจะได้คำตอบอ้อมๆ ว่าใช่ แต่แตกต่างกันในทางที่ดีกว่า) แน่นอนว่าการที่ซ่อนการใช้งานของประชาชนย่อมไม่เป็นที่พึงใจของรัฐบาลจีนมากนัก (เพราะจีนขึ้นชื่อเรื่องแอบดูการใช้และเซนเซอร์หนักมากที่สุดในโลก) ทาง Apple จึงต้องออกมาแถลงว่า Private Relay นี้จะไม่สามารถใช้งานในจีนได้ โดยนอกจากจีนแล้วก็ยังมีเบราลุส โคลอมเบีย อียิปต์ คาซักสถาน ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกาใต้ เติร์กเมนิสถาน อูกันดา และฟิลิปปินส์ ด้วย
ณ ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า Relay Server ของ Apple นั้นจะใช้บริการจากใคร แต่ถ้าดูจากการตั้ง Datacenter ต่างๆ ของ Apple ในปัจจุบัน คงจะเป็นเซิฟเวอร์ของ Apple ร่วมกับผู้ให้บริการคลาวด์อย่าง Amazon และ Google นั่นเองครับ
การเอาใจรัฐบาลจีนครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมายมากนัก เพราะปีที่แล้วรายได้ 15% ของ Apple มาจากจีน ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ใหญ่มากๆ ที่ Apple คงจะไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไปอย่างแน่นอน
ที่มา – Reuters